นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับภูมิภาค เปิดเผยว่า ไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 531.3 ล้านบาท เติบโต 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) จากการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ (Logistics Management) ส่วนกำไรสุทธิหลังหักรายการพิเศษทำได้ 108.6 ล้านบาท เติบโต 5.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

 

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 คาดว่าจะเติบโตได้ดีทั้งจากสัญญาณการฟื้นตัวของการขนส่งทางอากาศตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม และจากปัจจัยเชิงบวกหลังจากที่สหรัฐฯ เลื่อนเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศต่างๆ รวมถึงไทย ช่วยสนับสนุนความต้องการขนส่งสินค้า ซึ่งจะส่งผลดีทั้งกับบริษัทฯ และบริษัทที่เข้าลงทุน ได้แก่  ANI และ AOTGA อย่างไรก็ดีการปรับขึ้นอัตราภาษีของสหรัฐฯส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทฯ ไม่มาก เนื่องจากโดยปกติมีสัดส่วนการขนส่งสินค้าจากไทยไปสหรัฐฯ ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของปริมาณขนส่งสินค้ารวมของบริษัทฯ และบริษัทฯ ยังเตรียมรับมือโดยได้ปรับกลยุทธ์ขยายโอกาสทางธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศไปยังเส้นทางใหม่ๆ โดยใช้ประเทศไทยเป็น Transit Hub เน้นการขนส่งสินค้าในภูมิภาคไปยังประเทศปลายทาง เช่น รัสเซีย และตะวันออกกลาง

 

นอกจากนี้ ได้รุกขยายศักยภาพของธุรกิจตามแผน Synergy 360° ทั้งระหว่างบริษัทในเครือและร่วมกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาบริการ อาทิ การผนึกกำลังระหว่างบริษัทฯ และ SJWD ที่เริ่มเห็นชัดเจนจากความร่วมมือด้านธุรกิจคลังสินค้าทั่วไป การพัฒนาด้าน IT และยังมีแผนความร่วมมือขยายคลังสินค้าเคมีภัณฑ์ในพื้นที่ EEC รวมทั้งการที่บริษัทฯ มีแผนร่วมทำการตลาดให้กับบริษัท เทเลพอร์ต (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศของสายการบิน Air Asia ตลอดจนการได้รับประโยชน์จาก Air Asia X ที่ย้ายฐานการบินจากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่สนามบินดอนเมือง จะส่งผลให้รายได้ธุรกิจคลังสินค้าภายในสนามบินเติบโตขึ้น

 

ที่สำคัญ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้สร้างความหลากหลายของการให้บริการ โดยเฉพาะในด้านการขนส่งทางอากาศที่ทริพเพิลไอถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำ ซึ่งได้พัฒนาการให้บริการอย่างครบวงจร ทั้งการเปิดให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ (Multimodal Warehouse) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมถึงการผสานความร่วมมือกับ AOTGA เมื่อปลายปี 2567 ให้บริการ Airport Truck Link หรือบริการรถบรรทุกเชื่อม 3 สนามบินหลักของไทย ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต เพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากในทุกกระบวนการของการขนส่ง ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้

 

ในส่วนบริษัทที่เข้าลงทุน อย่างบริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ที่บริษัทฯ ลงทุนผ่านบริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL คาดว่าจะยื่นประมูลงานผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม และน่าจะทราบผลการประมูลไม่เกินไตรมาส 3 นี้ รวมถึงบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ได้รับสัญญาตัวแทนขายระวางสินค้าเพิ่มเติมจากสายการบินอีก 2 สัญญา จะเป็นปัจจัยบวกหนุนให้บริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่อง