Cargoport Thailand, NVOCC/LCL Global Top Leader

Cargoport Thailand, NVOCC/LCL Global Top Leader

ผู้ให้บริการตู้สินค้าคอนโซล (NVOCC) ที่ดีที่สุด

Cargoport (Thailand) บริษัทที่มีความแข็งแกร่งด้านการให้บริการตู้สินค้าคอนโซล (NVOCC) ที่ดีที่สุด เร่งปรับกลยุทธ์การบริการ หวังเสริมจุดแกร่งในการดำเนินธุรกิจ จากจุดยืนในการเป็น “Best Leader NVOCC in the world” พร้อมเครือข่ายที่เข้มแข็งครอบคลุม 72 แห่งทั่วโลก ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพบริการมาตรฐานสากล

การพัฒนาคุณภาพบริการและการปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันทางการค้าที่เข้มข้น นับเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จสามารถยืนหยัดในเวทีการค้าได้อย่างมั่นคง และหนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์เพื่อการขนส่งที่น่าจับตามองในขณะนี้ บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งด้านการให้บริการตู้สินค้าคอนโซล (NVOCC) ที่ดีที่สุดในโลก ที่เร่งปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ หวังเสริมจุดแกร่งในการดำเนินธุรกิจ จากจุดยืนในการเป็น “Best Leader NVOCC in the world”

คุณโสรัตย์ วัชรพันธ์พิพัฒน์ Executive Director บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด

จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมงาน รวมทั้งความมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของผู้บริหาร และการมีเครือข่ายที่แข็งแกร่งพร้อมให้บริการในมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก ทำให้วันนี้ Cargoport (Thailand) ขึ้นแท่นเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่ดีที่สุดในโลก ในเรื่องนี้หัวเรือใหญ่ของ Cargoport (Thailand) ผู้ที่จะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ และในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการโลจิสติกส์ คุณโสรัตย์ วัชรพันธ์พิพัฒน์ Executive Director บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด ได้แสดงทรรศนะในการบริหารงานว่า ทิศทางการทำงานของ Cargoport (Thailand) คือการสร้างความมั่นคง ความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้า โดยที่ผ่านมาเราได้พัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีสุด ในมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก

บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2551 จากประสบการณ์กว่า 14 ปี นับว่าเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ-ความเชี่ยวชาญในการทำงานได้เป็นอย่างดี สามารถรองรับลูกค้าได้ทุกกลุ่มทุกขนาดตั้งแต่ลูกค้าระดับเอสเอ็มอีไปจนถึงลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ สามารถให้บริการครอบคลุมทุกตลาดในประเทศไทย ในทุกกลุ่มสินค้าและทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยสามารถให้บริการครอบคลุม ทั้งทางการขนส่งบก การขนส่งทางอากาศ และการขนส่งทางน้ำ ส่งผลให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพบริการมากยิ่งขึ้น

“บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด เป็นบริษัทที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในเอเชียในด้านการให้บริการตู้สินค้าคอนโซล จากการมีพันธมิตรทางธุรกิจและมีเครือข่ายที่เข้มแข็งครอบคลุมอยู่ทั่วโลกถึง 72 แห่ง ทำให้ลูกค้ามั่นใจในบริการได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะส่งสินค้าไปที่ใดในโลก Cargoport ก็พร้อมให้บริการในคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน”  คุณโสรัตย์ กล่าว

ปรับกลยุทธ์ สร้างทีมงานที่แข็งแร่ง เสริมศักยภาพบริการ

สำหรับเป้าหมายการเติบโตในปี 2566 – 2567  เราคาดหวังให้มียอดขายให้เป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ในแต่ละปี ซึ่งคาดหวังให้มีการเติบโตขึ้น 30% ในทุกๆ ปี โดยจะเพิ่มทีมขายอีก 1 ทีม ขยายงานขาเข้าให้มากขึ้น และ ขยายการส่งออกไปยัง Trade Lane อื่นๆ เช่น อินเดีย ลาตินอเมริกา และ เมืองจีน

ที่ผ่านมา บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรเป็นหลัก เพราะปัจจัยหลักที่สำคัญของบริษัทฯ คือบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ เพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยเราจะมีการประเมินพนักงานทุกเดือน และมีการย้ายตำแหน่งงานตามความเหมาะสมของพนักงานนั้นๆ เพื่อให้เขาได้มีโอกาสพัฒนาร่วมไปกันกับบริษัทฯ แผนงานที่สำคัญคือการสร้างทีมงามเพื่อความแข็งแร่ง ด้วยมองว่าทีมงานที่เข้มแข็งคือหัวใจสำคัญของการให้บริการ

กลยุทธ์หลักในปี 2566 – 2567 รวมถึงแผนงานใหม่ๆ และการขยายตลาดในปี 2566 – 2567 นั้น เนื่องจากเราพัฒนาบุคลากรอยู่สม่ำเสมอ ทำให้เราต้องการสร้างทีมขายเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับและการเติบโตของบริษัทฯต่อไป โดย       เราตั้งเป้าจะขยายออฟฟิศในย่านธุรกิจอีก 1 สาขา โดยเน้นเป็น co-working space ฝ่ายขายทำงานที่ไหนก็ได้ และนัดการประชุมเป็นหลักที่สาขาในเมือง ตั้งเป้ามี Tele Sales อีก 4 คน และ ทีมขายอีก 1 ทีม

คุณผณินทร เพียรธัญกิจ General Manager กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด

ผนึกเครือข่ายทั่วโลกให้บริการมาตรฐานสากล

การมีเครือข่ายมีพันธมิตรที่เข้มแข็ง นับเป็นเรื่องสำคัญของธุรกิจผู้ให้บริการรับส่งสินค้าระหว่างประเทศ ที่จะทำให้ลูกค้าผู้ใช้บริการเกิดความมั่นใจว่าสินค้าจะขนส่งอย่างมีประสิทธิภาพและถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย คุณผณินทร เพียรธัญกิจ General Manager กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด มีเครือข่ายต่างประเทศที่สนับสนุนให้เราโตและแข็งแกร่งด้าน Overseas Network โดย CP World มีสาขาอยู่ 39 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 72 สาขา ในทุกๆ ปีเราจะมีการประชุม  CP World Global Meeting เพื่ออัพเดทข้อมูลข่าวสาร ราคา และการบริการของ CP World Group อีกด้วย

“CP World Global Meeting จะอัพเดทข่าวสารการค้าว่า ในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร มีการเจริญเติบโตแบบไหน และจะมีการกำหนดทิศทางเพื่อการเจริญเติบโตร่วมกันอย่างไร สามารถเพิ่มศักยภาพและเพิ่ม Market share ได้อย่างไร และจะร่วมกันพัฒนา-ปรับปรุงการบริการอย่างไร และ Cargoport จะให้ความมั่นใจในการให้บริการอย่างไร เพื่อการบริการที่ได้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก” คุณผณินทร กล่าว

สำหรับ Head Office CP World อยู่ที่ Singapore  และ CP World Singapore ยังเป็น Transhipment HUB ที่สำคัญของกลุ่มในการกระจายการขนส่งสินค้าไปยังประเทศต่างๆ  อีกทั้ง CP World ยังมี Transhipment HUB  ที่ HONG KONG / BUSAN  เพื่อขนส่งสินค้าไปยังทั่วโลกในทุกๆ ทวีป  นอกจากนี้ Cargoport ยังเป็นสมาชิกใน iCargo Alliance ซึ่งเป็นสมาคมที่ focus ไปที่ Global Forwarder Customer เช่น DHL / Schenker / KN  เป็นต้น  เพราะกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือกลุ่มลูกค้าที่เป็น Freight Forwarder Customer เราจึงให้ความสำคัญกับกลุ่ม Global Freight Forwader เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราเป็น Partner ในการค้าขายกันและกัน

นำนวัตกรรมพัฒนาเพื่อเสริมจุดแกร่ง

              บริษัท Cargoport (Thailand) จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยได้พัฒนาระบบ Freight Booking Online ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ลูกค้าได้รับความสะดวกในการทำงานที่ครอบคลุมและตอบสนองการดำเนินธุรกิจ โดยเริ่มตั้งแต่ระบบการสั่งซื้อ จนถึงแผนและกำหนดการขนส่งสินค้าจนถึงมือผู้รับ ซึ่งลูกค้าสามารถให้ผู้ขายหรือผู้ซื้อเข้ามาร่วมใช้ได้เป็น Real-time information ทำให้สามารถติดตามข้อมูลได้ทุกสถานที่และทุกเวลา ระบบนี้จะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจ ช่วยลดขั้นตอน ลดเวลาในการทำงานภายในองค์กรและได้ข้อมูลที่มีความถูกต้องมากขึ้น

โดยระบบ OnLine Booking ( Freight Portal Systems) จะเป็นระบบการบุ๊คกิ้งออนไลน์ ที่ลูกค้าสามารถได้รับ Booking CFM ภายในทันทีที่มีการบุ๊คกิ้ง และยังสามารถรู้ตารางเรือล่วงหน้าได้อีกด้วย นอกจากนั้น เราใช้ Line Official เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงลูกค้า และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเสนอราคา หรือการให้โปรโมชั่น ตารางเรือประจำเดือน เป็นต้น

คุณโสรัตย์ กล่าวเสริมว่า ด้วยสมัยยุคโควิดทำให้เราต้องปรับตัว โดยใช้ Software Report Desktop ซึ่งโปรแกรมนี้สามารถทำให้เราทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน  Work From Anywhere นอกจากนี้ ยังระบบ CRM (Customer Relationship Management) สำหรับฝ่ายขาย เพื่อให้ฝ่ายขายได้ทำการอัพเดทข้อมูลต่างของลูกค้า โดยสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ เพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ที่ช่วยให้ทีมขายของเราสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การพัฒนาคุณภาพบริการและการปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันทางการค้าที่เข้มข้น นับเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้ธุรกิจประสบความสำเร็จสามารถยืนหยัดในเวทีการค้าได้อย่างมั่นคง ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงส่งผลให้ Cargoport (Thailand) ก้าวสู่ “Best Leader NVOCC in the world”